Google

Thursday, October 8, 2009

Citizenship : Alien

ความเป็นพลเมือง : คนต่างด้าว

บุคคลที่มิได้เป็นพลเมืองหรือมีสัญชาติของรัฐที่ตนเข้าไปพักพิงอยู่นั้น หลักการทั่วไปของกฎหมายระหว่างประเทศมีอยู่ว่า รัฐมีอำนาจอธิปไตยภายในและมีอิสระที่จะรับหรือจะขับไล่คนต่างด้าวได้ตามแต่จะเลือก รัฐต่าง ๆ จะขยายสิทธิพลเมืองส่วนใหญ่ที่ให้แก่พลเมืองของตนแล้วนั้น (ยกเว้นสิทธิทางการเมือง) ไปให้แก่คนต่างด้าวด้วย สิทธิของพลเมืองเหล่านี้โดยปกติ ได้แก่ (1) สิทธิเสรีภาพในการพูดและการนับถือศาสนา (2) สิทธิที่จะประกอบอาชีพการงานอย่างใดอย่างหนึ่ง (3) สิทธิที่จะทำสัญญา ถือครอง เป็นทายาท และโอนอสังหาริมทรัพย์ กฎหมายระหว่างประเทศได้ให้การรับรองในข้อแตกต่างระหว่างคนต่างด้าวประจำที่มีภูมิลำเนาอยู่ประจำกับคนต่างด้าวที่เข้าไปพักพิงอยู่ชั่วคราว คนต่างด้าวประเภทที่อยู่ประจำนั้นอาจจะต้องทำหน้าที่หลายอย่างเหมือนกับพลเมืองของประเทศนั้น ๆ อาทิ เสียภาษีอากรและเป็นทหารในกองทัพ เป็นต้น และเพื่อประโยชน์ของทางการ พวกเขาอาจจะถูกจำกัดสิทธิบางอย่างได้ อาทิ มีข้อผูกพันว่าจะต้องแจ้งให้รัฐบาลประเทศนั้น ๆ ได้ทราบเกี่ยวกับที่พำนัก และอาชีพการงาน เป็นต้น เป็นระยะ ๆ นอกจากนั้นแล้วคนต่างด้าวก็อาจจะถูกขับออกนอกประเทศได้ แต่ทั้งนี้มีเงื่อนไขกำหนดไว้ว่า การขับออกนอกประเทศจะต้องไม่เป็นการกระทำที่มีอคติต่อพลเมืองของต่างประเทศประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นการเฉพาะ

ความสำคัญ กฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของคนต่างด้าว ตลอดจนที่ว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของรัฐ กำลังอยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ คือ อยู่ในระหว่างดำเนินการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เนื่องจากมีการเดินทางท่องเที่ยวและการคมนาคมติดต่อกันเพิ่มมากขึ้น เรื่องที่เป็นประเด็นโต้แย้งกันมากก็คือ ประเด็นที่เกี่ยวกับอคติต่อพลเมืองของประเทศนั้นประเทศนี้เป็นการเฉพาะในรูปของนโยบายการเข้าเมือง นอกจากนั้นแล้วจากผลของสงครามและการปฏิวัติ ก็จะทำให้พลเมืองเป็นจำนวนมากได้สถานภาพเป็นคนต่างด้าวประเภทผู้ลี้ภัยขึ้นมาได้ ปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าวก็คือ คนไร้สัญชาติที่ไม่สามารถขอความคุ้มครองจากประเทศใด ๆ ได้ และกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มใหญ่ ๆ ที่มักจะได้รับการปฏิบัติเป็นคนต่างด้าวทางวัฒนธรรม ในประเทศที่พวกเขาเข้าไปตั้งถิ่นฐานอยู่นั้น

No comments:

Post a Comment