เขตอำนาจ : สภาพนอกอาณาเขต
การที่รัฐหนึ่งใช้เขตอำนาจของตนในดินแดนของอีกรัฐหนึ่ง สภาพนอกอาณาเขตจะถูกกำหนดโดยสนธิสัญญา ซึ่งจะมีการระบุถึงบุคคล สาระ และระดับที่เขตอำนาจในท้องถิ่นไม่สามารถนำมาใช้กับพลเมืองของคู่สนธิสัญญาได้ สภาพนอกอาณาเขตเคยมีตัวอย่างมาตั้งแต่ในสมัยก่อนที่จะมีระบบรัฐในปัจจุบันนี้แล้ว การให้สิทธิพิเศษในแบบที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “แคปปิตุเลชั่น” เป็นสภาพนอกอาณาเขตรูปแบบหนึ่ง ที่กำหนดให้สิทธิพิเศษบางอย่างแก่ชาวคริสต์ในประเทศที่อยู่ภายใต้การปกครองของชาวมุสลิม
ความสำคัญ สภาพนอกอาณาเขตนี้ ข้างรัฐที่มีอำนาจมากมักจะนำไปใช้กับรัฐที่อ่อนแอในระหว่างยุคจักรวรรดินิยมและยุคล่าอาณานิคมตะวันตก วัตถุประสงค์ของสภาพนอกอาณาเขต
ก็คือ เพื่อปกป้องพลเมืองของรัฐที่มีอำนาจมากในที่ซึ่งวัฒนธรรมและระบบกฎหมายของทั้งสองรัฐมีความแตกต่างกันมาก ๆ เช่น ระหว่างหมู่ประเทศตะวันตกกับหมู่ประเทศในตะวันออกใกล้และตะวันออกไกล มีบ่อยครั้งที่สภาพนอกอาณาเขตนี้มีความหมายว่า ชาวต่างชาติที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดทางอาญาถูกพิจารณาดคีภายใต้กฎหมายและคณะลูกขุนของชาติตนยิ่งกว่าจะให้พิจารณาคดีโดยใช้กฎหมายของสถานที่นั้น สนธิสัญญาสภาพนอกอาณาเขต ซึ่งโดยปกติจะไม่ใช่สนธิสัญญาต่างตอบแทน ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงว่ามีลักษณะไปจำกัดอำนาจอธิปไตยที่ไม่เท่าเทียมกันจนเดี๋ยวได้สูญหายไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตามสภาพนอกอาณาเขตในความหมายพิเศษยังคงมีอยู่ในกรณีของนักการทูต คือ พวกนักการทูตจะปลอดพ้นจากกระบวนการทางกฎหมายในประเทศเจ้าบ้านที่ตนไปประจำอยู่นั้น และในกรณีที่เกี่ยวข้องกับสนธิสัญญาว่าด้วย “สถานภาพของกองกำลัง” ที่ให้สิทธิและหน้าที่แก่กองทัพของประเทศหนึ่งที่เข้าไปตั้งอยู่ในดินแดนของอีกประเทศหนึ่ง
No comments:
Post a Comment